พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
สิงห์สาริกา หลว...
สิงห์สาริกา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี (เลี่ยมทับเลี่ยมเดิม)
สิงห์สาริกา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี (เลี่ยมทับเลี่ยมเดิม)

ประวัติ ตามประวัติแล้วหลวงพ่อมุ่ยท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกองค์ที่ไม่ธรรมดา และอาจารย์ของท่านก็ไม่ธรรมดาเช่นกันอย่างเช่น 1.หลวงปู่ศุข วัดปางคลองมาขามเฒ่า 2.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี และ อีกหลายท่านเพราะท่านประพฤติปฏิบัติตนแบบน้ำไม่เต็มแก้ว ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เป็นนิตย์ท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก

#พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์และมีประสบการณ์แก่ผู้อาราธนาสวมใส่ สำหรับสิงห์งาแกะของท่านนั้นเป็นที่ล่ำลือกันว่าหลวงพ่อปลุกเสกจนสิงห์ทุกตัวมีจิตมีชีวิต สิงห์งาแกะที่ปลุกเสกในบาตรกระโจนกระโดดโลดเต้นดังลูกกบลูกเขียด เป็นสิงห์เมตตา มหาเสน่ห์ และเปี่ยมด้วยอำนาจบารมี แคล้วคลาดปลอดภัย น่าบูชาเป็นยิ่งนัก เครื่องรางของท่านมีไม่มากนักแต่ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ศิษย์สายสุพรรณ

#ปัจจุบันนี้สิงห์หลวงพ่อมุ่ยได้รับความนิยมอย่างมาก นับวันยิ่งหายาก และมีคุณค่ามาก ด้วยพุทธคุณ บารมีของหลวงพ่อมุ่ยในการปลุกเสกสิงห์ ทำให้สิงห์ของท่านดูมีมนต์ขลัง ดูมีอำนาจมากและนับวันสิงห์ที่แกะออกมาในลักษณะสวยๆ ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่

#สิงห์ตัวเล็กแต่พุทธคุณมหาศาลครบทุกด้าน แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย เมตตามหานิยม เจริญรุ่งเ้รืองในหน้าที่การงาน ศิริมงคลยิ่งนัก #คำอาราธนาพระเครื่องของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ตั้งนะโม 3 จบ ให้ระลึกพระรัตนตรัย

จึงอาราธนาว่าดังนี้ “พระพุทธะราธนานัง พระธัมมะราธนานัง พระสังฆะราธนานัง วิญญาณ นะสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ” เมื่อเข้าที่คับขัน จงภาวนาพระคา (ชินบัญชร) ย่อดังนี้ “ชะยา สะนา กาตา พุทธาฯ” -สิงห์เนื้องาฉ่ำเก่า มันส์เงา

——————

พระเกจิอาจารย์อาคมขลัง เป็นที่ประจักษ์โด่งดังแห่งยุค ดังวลีอมตะ “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง”
“ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ”
อายุ ๘๖ ปี (ปี ๒๔๓๑ – ๒๕๑๗)

พ.ศ.๒๔๗๕ ได้รับตราตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดดอนไร่
พ.ศ.๒๔๗๖ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ ตำบลหนองสะเดา
พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์
ฑ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับสมณะศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์)

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เป็นบุตรของนายเหมือน นางซัง นามสกุล มีศรีชัย เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู เป็นบุตรคนกลางในจำนวน ๕ คน อุปสมบทครั้งแรก ปี ๒๔๕๑ จนถึงปี ๒๔๖๓ จึงลาสิกขามาเพื่อช่วยครอบครัวได้ไม่กี่เดือนผมยังไม่ทันยาวก็เกิดอาการป่วยมือสั่นและทรุดลงเรื่อยๆ รักษาไม่ได้บรรดาญาติจึงขอให้ท่านอธิษฐานถ้าหายเจ็บไข้จะบวชอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านจึงหาย และได้อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อีกครั้ง ณ พัทธสีมา วัดดอนบุปผาราม อ.ศรีประจันต์ หลวงพ่อมุ่ยได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอุปปัชฌาย์รูปแรกของท่าน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มาโดยตลอดตั้งแต่แรก ซึ่งในยุคนั้นสำนักวัดหัวเขาโด่งดังมาก รวมถึงในปี ๒๔๖๓ นั้นหลวงพ่ออิ่มท่านได้ฝากหลวงพ่อมุ่ยไว้กับพระอาจารย์ที่สุดยอดขิงเมืองไทยอีกรูปนึงคือ หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือหลวงปู่ศุข นั่นเอง โดยหลวงพ่ออิ่มถึงกับออกปากชมว่า “ท่านได้วิชาหลวงปู่ศุขมาครึ่งเล่ม ส่วนท่านมุ่ยได้มาเล่มครึ่ง” ซึ่งหมายความว่าตัวท่านนั้นแก่ชราแล้วความจำสู้พระหนุ่มๆอย่างหลวงพ่อมุ่ยไม่ได้นั่นเอง ส่วนคำว่าเล่มนั่นหมายความถึงเล่มเกวียน ที่มีขนาดพอๆกับรถกะบะใหญ่ๆสมัยนี้นั่นเอง และก่อนหลวงพ่ออิ่มมรณะภาพท่านยังออกปากว่า “ถ้าสิ้นบุญท่านแล้ว จะมีดอกบัวบานทางทิศใต้” ซึ่งหมายถึงวัดดอนไร่นั่นเอง และหลังจากปี ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ชื่อเสียงของหลวงพ่อมุ่ยในด้านความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ รดน้ำมนต์ ค้าขาย โด่งดังเป็นที่สุดในแถบภาคกลาง เกิดเป็นวลีอมตะ ดังที่สมเด็จพระสังฆราช จวน วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถี ที่พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นแม่งานในการจัดสร้าง สมเด็จฯได้พบกับหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามหลวงพ่อมุ่ยว่า “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง” หลวงพ่อมุ่ยก็ตอบว่า”ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ” สมเด็จฯได้ยินดังนั้นทรงชื่นชอบในคำตอบของหลวงพ่อมุ่ยเป็นอย่างมาก

การปลุกเสกพระเครื่งนั้น หลวงพ่อมุ่ย ท่านไม่ค่อยที่จะสร้างมากนักมีแต่ลูกศิษย์กับญาติโยมในวัดที่ร้องขอท่านเพราะต้องการที่จะสร้างถาวรวัตถุภายในบริเวณวัดให้และแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมทำบุญ ซึ่งท่านก็เมตตาปลุกเสกและแนะนำให้ การเสกแต่ละครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ สิงห์งาแกะ ท่านปลุกเสกจนขยับวิ่งได้ราวกับมีชีวิตเลยที่เดียวจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิด ช่วงว่างของท่านนั้นท่านจะภาวนาอยู่เสมอและจ้องมองไปที่ต้นสำโรงต้นใหญ่กลางวัดเป็นประจำ เม็ดสำโรงของวัดดอนไร่ก็ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้กระทั่งก้นยาฉุนของหลวงพ่อมุ่ยนั้น ช่วงแรกๆ วัยรุ่นแถววัดที่ไม่ค่อยมีสตางค์นำก้นยาใส่กระเป๋าไปเที่ยวงานต่างถิ่นและมีเรื่องมีราวชกต่อยไล่ฟันกันไม่เข้า และอีกเรื่องนึงเด็กวัดได้เหน็บก้นยาหลวงพ่อมุ่ยไว้ที่เอว ถูกสุนัขกัดจนล้มก็ไม่เข้า ต่อมาจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น จนมาเฝ้ากันใต้กุฏิหลวงพ่อมุ่ย นั่งรอก้นยาฉุนเวลาที่หลวงพ่อท่านสูบ บางครั้งหลวงพ่อท่านก็เย้าเล่นโยนลงไปพวกเด็กๆก็วิ่งตามไปปรากฎว่าไม่มีก้นยาหล่นมา หลวงพ่อท่านก็ยิ้ม หลวงพ่อมุ่ยท่านรับสงเคราะห์อนุเคราะห์ลูกศิษย์ไม่เลือกชั้นวรรณะ จะร่ำรวยมียศถาบรรดาศักดื์มาก็ต้องตามคิวรอไม่มีมาหลังได้ก่อนมาก่อนได้หลัง จังหวัดข้างเคียง ชัยนาท สิงห์บุรี อยุธยาในยุคนั้นวิ่งเข้าวัดดอนไร่มากมายนักว่ากันว่าสิงห์งาแกะหรือวัตถุมงคลงาแกะต่างๆ ที่นิยมจากช่างพยุหะคิรีนั้นทำส่งวัดดอนไร่เป็นปี๊บๆ ก็ไม่พอเช่าบูชาแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
หลวงพ่อมุ่ย ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ แต่ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน



พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย

. https://ponsrithong.com/

web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง

Web ( มุมพระ) : มุมพระ
https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507
web (99wat) : 99วัด
http://www.ponsrithong.99wat.com/
web palana : พระล้านนา.คอม
http://www.pralanna.com/ponsrithong
Facebook เพจพลศรีทอง พระเครื่อง บู เชียงราย
: https://www.facebook.com/ponsrithong/
IG :https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/
ผู้เข้าชม
51 ครั้ง
ราคา
2000
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
frank_tumAmuletManแมวดำ99บี บุรีรัมย์chathanumaanอมรทรัพย์พระเครื่อง
Nithipornเจริญสุขทองธนบุรีsakunchartยอด วัดโพธิ์ponsrithong2
พล ปากน้ำswatErawanเซียนtermboonsadao
เปียโนBAINGERNep8600somphopnatthanetPumnee
hoppermanนรินทร์ ทัพไทยปลั๊ก ปทุมธานีเนินพระ99chaithawatchaokoh

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1061 คน

เพิ่มข้อมูล

สิงห์สาริกา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี (เลี่ยมทับเลี่ยมเดิม)



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
สิงห์สาริกา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี (เลี่ยมทับเลี่ยมเดิม)
รายละเอียด
สิงห์สาริกา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี (เลี่ยมทับเลี่ยมเดิม)

ประวัติ ตามประวัติแล้วหลวงพ่อมุ่ยท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกองค์ที่ไม่ธรรมดา และอาจารย์ของท่านก็ไม่ธรรมดาเช่นกันอย่างเช่น 1.หลวงปู่ศุข วัดปางคลองมาขามเฒ่า 2.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี และ อีกหลายท่านเพราะท่านประพฤติปฏิบัติตนแบบน้ำไม่เต็มแก้ว ชอบศึกษาหาความรู้อยู่เป็นนิตย์ท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก

#พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์และมีประสบการณ์แก่ผู้อาราธนาสวมใส่ สำหรับสิงห์งาแกะของท่านนั้นเป็นที่ล่ำลือกันว่าหลวงพ่อปลุกเสกจนสิงห์ทุกตัวมีจิตมีชีวิต สิงห์งาแกะที่ปลุกเสกในบาตรกระโจนกระโดดโลดเต้นดังลูกกบลูกเขียด เป็นสิงห์เมตตา มหาเสน่ห์ และเปี่ยมด้วยอำนาจบารมี แคล้วคลาดปลอดภัย น่าบูชาเป็นยิ่งนัก เครื่องรางของท่านมีไม่มากนักแต่ก็เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ศิษย์สายสุพรรณ

#ปัจจุบันนี้สิงห์หลวงพ่อมุ่ยได้รับความนิยมอย่างมาก นับวันยิ่งหายาก และมีคุณค่ามาก ด้วยพุทธคุณ บารมีของหลวงพ่อมุ่ยในการปลุกเสกสิงห์ ทำให้สิงห์ของท่านดูมีมนต์ขลัง ดูมีอำนาจมากและนับวันสิงห์ที่แกะออกมาในลักษณะสวยๆ ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่

#สิงห์ตัวเล็กแต่พุทธคุณมหาศาลครบทุกด้าน แคล้วคลาด เดินทางปลอดภัย เมตตามหานิยม เจริญรุ่งเ้รืองในหน้าที่การงาน ศิริมงคลยิ่งนัก #คำอาราธนาพระเครื่องของ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ตั้งนะโม 3 จบ ให้ระลึกพระรัตนตรัย

จึงอาราธนาว่าดังนี้ “พระพุทธะราธนานัง พระธัมมะราธนานัง พระสังฆะราธนานัง วิญญาณ นะสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ” เมื่อเข้าที่คับขัน จงภาวนาพระคา (ชินบัญชร) ย่อดังนี้ “ชะยา สะนา กาตา พุทธาฯ” -สิงห์เนื้องาฉ่ำเก่า มันส์เงา

——————

พระเกจิอาจารย์อาคมขลัง เป็นที่ประจักษ์โด่งดังแห่งยุค ดังวลีอมตะ “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง”
“ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ”
อายุ ๘๖ ปี (ปี ๒๔๓๑ – ๒๕๑๗)

พ.ศ.๒๔๗๕ ได้รับตราตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดดอนไร่
พ.ศ.๒๔๗๖ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ ตำบลหนองสะเดา
พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์
ฑ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับสมณะศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์)

หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เป็นบุตรของนายเหมือน นางซัง นามสกุล มีศรีชัย เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๓๑ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีฉลู เป็นบุตรคนกลางในจำนวน ๕ คน อุปสมบทครั้งแรก ปี ๒๔๕๑ จนถึงปี ๒๔๖๓ จึงลาสิกขามาเพื่อช่วยครอบครัวได้ไม่กี่เดือนผมยังไม่ทันยาวก็เกิดอาการป่วยมือสั่นและทรุดลงเรื่อยๆ รักษาไม่ได้บรรดาญาติจึงขอให้ท่านอธิษฐานถ้าหายเจ็บไข้จะบวชอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านจึงหาย และได้อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อีกครั้ง ณ พัทธสีมา วัดดอนบุปผาราม อ.ศรีประจันต์ หลวงพ่อมุ่ยได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอุปปัชฌาย์รูปแรกของท่าน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา มาโดยตลอดตั้งแต่แรก ซึ่งในยุคนั้นสำนักวัดหัวเขาโด่งดังมาก รวมถึงในปี ๒๔๖๓ นั้นหลวงพ่ออิ่มท่านได้ฝากหลวงพ่อมุ่ยไว้กับพระอาจารย์ที่สุดยอดขิงเมืองไทยอีกรูปนึงคือ หลวงพ่อวัดปากคลองมะขามเฒ่า หรือหลวงปู่ศุข นั่นเอง โดยหลวงพ่ออิ่มถึงกับออกปากชมว่า “ท่านได้วิชาหลวงปู่ศุขมาครึ่งเล่ม ส่วนท่านมุ่ยได้มาเล่มครึ่ง” ซึ่งหมายความว่าตัวท่านนั้นแก่ชราแล้วความจำสู้พระหนุ่มๆอย่างหลวงพ่อมุ่ยไม่ได้นั่นเอง ส่วนคำว่าเล่มนั่นหมายความถึงเล่มเกวียน ที่มีขนาดพอๆกับรถกะบะใหญ่ๆสมัยนี้นั่นเอง และก่อนหลวงพ่ออิ่มมรณะภาพท่านยังออกปากว่า “ถ้าสิ้นบุญท่านแล้ว จะมีดอกบัวบานทางทิศใต้” ซึ่งหมายถึงวัดดอนไร่นั่นเอง และหลังจากปี ๒๕๐๐ เป็นต้นมา ชื่อเสียงของหลวงพ่อมุ่ยในด้านความขลัง ศักดิ์สิทธิ์ รดน้ำมนต์ ค้าขาย โด่งดังเป็นที่สุดในแถบภาคกลาง เกิดเป็นวลีอมตะ ดังที่สมเด็จพระสังฆราช จวน วัดมกุฏกษัตริยาราม ได้เสด็จมาเป็นประธานในการปลุกเสกพระเครื่องยุทธหัตถี ที่พระวิสุทธิสารเถระ หรือหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นแม่งานในการจัดสร้าง สมเด็จฯได้พบกับหลวงพ่อมุ่ย จึงตรัสถามหลวงพ่อมุ่ยว่า “ท่านมุ่ยได้ข่าวว่าท่านขลังนัก ทำอย่างไรถึงขลัง” หลวงพ่อมุ่ยก็ตอบว่า”ตั้งแต่เกล้าบวชทำแต่ความดีไม่เคยทำชั่ว ถ้าจะขลังก็ขลังที่ความดีขอรับ” สมเด็จฯได้ยินดังนั้นทรงชื่นชอบในคำตอบของหลวงพ่อมุ่ยเป็นอย่างมาก

การปลุกเสกพระเครื่งนั้น หลวงพ่อมุ่ย ท่านไม่ค่อยที่จะสร้างมากนักมีแต่ลูกศิษย์กับญาติโยมในวัดที่ร้องขอท่านเพราะต้องการที่จะสร้างถาวรวัตถุภายในบริเวณวัดให้และแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมทำบุญ ซึ่งท่านก็เมตตาปลุกเสกและแนะนำให้ การเสกแต่ละครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ สิงห์งาแกะ ท่านปลุกเสกจนขยับวิ่งได้ราวกับมีชีวิตเลยที่เดียวจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิด ช่วงว่างของท่านนั้นท่านจะภาวนาอยู่เสมอและจ้องมองไปที่ต้นสำโรงต้นใหญ่กลางวัดเป็นประจำ เม็ดสำโรงของวัดดอนไร่ก็ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แม้กระทั่งก้นยาฉุนของหลวงพ่อมุ่ยนั้น ช่วงแรกๆ วัยรุ่นแถววัดที่ไม่ค่อยมีสตางค์นำก้นยาใส่กระเป๋าไปเที่ยวงานต่างถิ่นและมีเรื่องมีราวชกต่อยไล่ฟันกันไม่เข้า และอีกเรื่องนึงเด็กวัดได้เหน็บก้นยาหลวงพ่อมุ่ยไว้ที่เอว ถูกสุนัขกัดจนล้มก็ไม่เข้า ต่อมาจึงเป็นที่นิยมมากขึ้น จนมาเฝ้ากันใต้กุฏิหลวงพ่อมุ่ย นั่งรอก้นยาฉุนเวลาที่หลวงพ่อท่านสูบ บางครั้งหลวงพ่อท่านก็เย้าเล่นโยนลงไปพวกเด็กๆก็วิ่งตามไปปรากฎว่าไม่มีก้นยาหล่นมา หลวงพ่อท่านก็ยิ้ม หลวงพ่อมุ่ยท่านรับสงเคราะห์อนุเคราะห์ลูกศิษย์ไม่เลือกชั้นวรรณะ จะร่ำรวยมียศถาบรรดาศักดื์มาก็ต้องตามคิวรอไม่มีมาหลังได้ก่อนมาก่อนได้หลัง จังหวัดข้างเคียง ชัยนาท สิงห์บุรี อยุธยาในยุคนั้นวิ่งเข้าวัดดอนไร่มากมายนักว่ากันว่าสิงห์งาแกะหรือวัตถุมงคลงาแกะต่างๆ ที่นิยมจากช่างพยุหะคิรีนั้นทำส่งวัดดอนไร่เป็นปี๊บๆ ก็ไม่พอเช่าบูชาแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ในยุคนั้นเลยทีเดียว
หลวงพ่อมุ่ย ละสังขารเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๑๗ แต่ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน



พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย

. https://ponsrithong.com/

web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง

Web ( มุมพระ) : มุมพระ
https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507
web (99wat) : 99วัด
http://www.ponsrithong.99wat.com/
web palana : พระล้านนา.คอม
http://www.pralanna.com/ponsrithong
Facebook เพจพลศรีทอง พระเครื่อง บู เชียงราย
: https://www.facebook.com/ponsrithong/
IG :https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/
ราคาปัจจุบัน
2000
จำนวนผู้เข้าชม
52 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พลศรีทองพระเครื่อง2 ( บู เชียงราย )
URL
เบอร์โทรศัพท์
0877124640
ID LINE
busoftware52
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี